เหล็ก GI เหล็ก GL เทียบก่อนตัดสินใจซื้อ

เหล็ก GI และ เหล็ก GL เลือกให้ถูก ช่วยลดต้นทุนในการก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

     ในการเลือกใช้เหล็กเคลือบสำหรับงานก่อสร้าง หนึ่งในคำถามที่พบได้บ่อย คือควรเลือกใช้ เหล็ก GI (Galvanized Iron) หรือ เหล็ก GL (Galvalume) จึงจะเหมาะสมกับประเภทงานและสภาพแวดล้อมที่ใช้งานมากที่สุด

    บทความนี้จะช่วยเปรียบเทียบข้อดี ข้อจำกัด และการใช้งานของเหล็กทั้งสองชนิด เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น พร้อมประหยัดงบประมาณ และยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างได้ในระยะยาว

🔹 เหล็ก GI (Galvanized Iron)
     เหล็ก GI หรือ เหล็กกัลวาไนซ์ เป็นเหล็กที่เคลือบด้วย สังกะสี (Zinc) 100% ซึ่งช่วยป้องกันสนิมได้ดีในระดับหนึ่ง โดยลักษณะผิวเหล็กจะมีลวดลาย “เกล็ดน้ำแข็ง” หรือที่เรียกว่า Spangle ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ลักษณะเด่น :
     ▪ เชื่อมและพ่นสีได้ง่าย
     ▪ เหมาะกับงานภายในอาคารหรือบริเวณที่ไม่สัมผัสกับความชื้นตลอดเวลา
     ▪ ราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับงานที่มีงบประมาณจำกัด
ตัวอย่างงานที่เหมาะสม :
     ▪ โครงคร่าวฝ้าเพดาน และผนังเบา
     ▪ เฟอร์นิเจอร์เหล็ก เช่น โต๊ะ ชั้นวางของ
     ▪ ประตูรั้ว หรือชิ้นงานที่ต้องพ่นสีทับ
ข้อควรพิจารณา :
     ▪ หากใช้งานกลางแจ้ง หรือในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เหล็ก GI อาจเกิดสนิมได้เร็วกว่าชนิดอื่น

🔹 เหล็ก GL (Galvalume)
เหล็ก GL หรือ เหล็กอลูซิงค์ คือเหล็กที่เคลือบด้วยโลหะผสม ได้แก่
อลูมิเนียม 50-60%, สังกะสี, และ ซิลิคอน 1.6% ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการ ต้านทานสนิมและทนความร้อน ได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงมีลักษณะผิวเรียบ เงางามมากกว่าเหล็ก GI
ลักษณะเด่น:
     ▪ ทนทานต่อการกัดกร่อนจากความชื้นและแสงแดด
     ▪ มีอายุการใช้งานยาวนาน เหมาะสำหรับงานภายนอก
     ▪ ผิวเรียบ ดูทันสมัย
ตัวอย่างงานที่เหมาะสม:
     ▪ หลังคาเมทัลชีท ผนังอาคาร
     ▪ โครงสร้างเหล็กที่สัมผัสฝนและความชื้น
     ▪ งานภายนอก เช่น ป้ายโฆษณา รั้วบ้าน
ข้อควรพิจารณา:
     ▪ เชื่อมยากกว่าหรือไม่เหมาะกับงานที่ต้องพ่นสี
     ▪ ราคาสูงกว่าเหล็ก GI